Trip ท้ายสุดของปี คือ ภูที่ได้ชื่อว่าเป็นปฐมบทการเดินทาง ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา “ภูกระดึง” เป็นที่ที่ตั้งใจว่าจะไป และพลาดไป 2 ครั้ง ทั้ง 2 ครั้งเกิดจากทัวร์ที่เราจองถูกยกเลิกเนื่องจากจำนวนคนไปไม่ถึงยอดที่ตั้งใจ ทำให้มั่นใจได้ว่า ใครๆ เค้าก็ไปกันเองจ้า เลือกวันได้ก็จองตั๋วรถทัวร์ จองที่พักอุทยาน (จองได้ห้องเล็กสุด คือ เรือนแถว 6 คน) การจองที่พักอุทยานใช้การวางแผนและความขยันเข้าไปเช็ค web site ขั้นสุด กว่าจะจองได้
ออกเดินทางคืนวันที่ 19 ด้วยรถ VIP ของ บขส. รถดี พนักงานเด่น เบาะรถนอนสบาย ขนมที่ให้มาในรถมาจากครัวการบินไทยซะด้วย รถออก 3 ทุ่มครึ่ง เลยไม่ได้กินซักอย่าง เก็บไว้เป็นเสบียงตอนขึ้นเขาละกัน

ประมาณ ตี 4 ครึ่ง ก็มาถึงร้านเจ๊กิม ผานกเค้า ส่วนใหญ่ที่ไปภูกระดึงลงตรงนี้ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ตื่น เพราะพนักงานเปิดไฟ และตะโกนปลุกอย่างจริงจัง ร้านเจ๊กิมขายอาหารและให้บริการนักท่องเที่ยวที่จะไปภูกระดึง ร้านอยู่ห่างจากอุทยาน 11 กม. อุทยานเปิดประมาณ 7 โมงเช้า ช่วงนี้ก็ล้างหน้า แปรงฟัง กินข้าวเช้า เก็บของไปพลางๆ ก่อน (หลังร้านมีแคร่ในนอนหลับพักผ่อนด้วย)
ประมาณ 6 โมง 40 เรานั่งรถสองแถวจากร้านเจ๊กิมไปอุทยาน ทั้งคัน 300 บาท มีกี่คนก็หารกันไปเท่านั้น ตกคนละไม่กี่บาท (นั่งได้สูงสุด 10 คน) ขึ้นรถแล้วก็ทิ้งผานกเค้าไว้ข้างหลัง อากาศเริ่มเย็นจากลมที่พัดระหว่างรถแล่น

ถึงอุทยาน รอแป๊บเดียว เจ้าหน้าที่ก็มาประกาศให้เข้าแถวจองที่กางเต๊นท์ จองเต๊นท์ ซื้อประกัน คนก็เยอะพอสมควร แต่ก็ไม่แน่นมาก ธุระของเรามีแค่ลงทะเบียนบ้านพักและซื้อประกัน ใช้เวลาไม่นานก็เตรียมเดินทาง และตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะจ้างลูกหาบหรือไม่ ตกลงกันว่าไม่จ้าง เพราะคิดว่าไปไหว (ชั่งมาจากบ้าน คุณลุง 7 กก. คุณป้า 5 กก.) และไม่อยากไปรอของจากลูกหาบ พร้อมแล้วก็ออกเดินทางตอน 7 โมงครึ่ง ลงชื่อเข้าอุทยานเลยจ้า (ต้องลงชื่อทั้งขาเข้าและขาออกนะ เค้าจะได้รู้ว่าเราไม่หลงอยู่ในป่าในเขา)
จากทางเข้า เรามีจุด check point ทั้งหมด 11 จุด เกือบทุกจุดมีที่นั่งพัก และอาหารขาย (กินได้ทุกซำ ถ้าไม่หวั่นกับราคา และไม่กลัวจุก 555) เช็คจากแผนที่ที่ซื้อมาจากอุทยานอีกที (ภาพที่ลงนี่ถ่ายหลังจากกลับมาแล้ว กระดาษเปื่อยเป็นชิ้นๆ) ระยะทางจากที่ทำการอุทยานไปจนถึงหลังแป 5.5 กม. และเดินทางราบอีก 3.5 กม. จะถึงวังกวาง ซึ่งเป็นจุดที่ทำการ บ้านพัก ลานกางเต๊นท์ และร้านค้าต่างๆ

7.30 – 8.05 น. ที่ทำการ – ปางกกค่า – ซำแฮก (1,000 ม.) เดินระยะแรก เหนื่อยมาก HR ขึ้นสูงตลอด คิดว่าร่างกายกำลังปรับตัว โดยเฉพาะ 15 นาทีแรก กำลังจะอยากพัก ก็ถึงซำแฮกพอดี มีคนเดินขึ้นพร้อมๆ กันนิดหน่อย ลูกหาบมีมาเป็นระยะๆ ต้องคอยหลบทางให้ วิวข้างทางค่อนข้างแห้งแล้งเนื่องจากเป็นหน้าหนาว ฝุ่นเยอะ ยังเช้าอยู่ อากาศไม่ร้อนเท่าไหร่
8.10 – 8.30 น. ซำแฮก – ซำบอน (700 ม.) ช่วงนี้จากในรูปคิดว่าน่าจะชัน แต่พอเดินจริงๆ ค่อนข้างสบาย เป็นทางราบซะส่วนใหญ่ มีน้องๆ นักศึกษามาเที่ยวกันเยอะเลย ทำให้บรรยากาศสดชื่น (มากกว่ามีลุงกับป้าเดินกันอยู่ 2 คน 555)
8.35 – 8.50 น. ซำบอน – ซำกกกอก – ซำกอซาง (800 ม.) ช่วงนี้ก็ยังเดิน เดิน เดิน ระยะทางแต่ละ check point ค่อนข้างสั้น เลยแวะถ่ายรูปร้านค้าบ้าง ของกินบ้าง ของกินก็มีทุกอย่างที่คนเหนื่อยๆ ร้อนๆ อยากกิน ตั้งแต่น้ำแดงโซดา เฉาก๊วย ไอติม สปอนเซอร์ แตงโม หรือของเพิ่มพลังอย่างไข่ปิ้ง ข้าวเหนียวปิ้ง จนถึงอาหารตามสั่ง ที่สังเกต ทุกจุดพักจะมีที่พักของลูกหาบ เป็นบาร์ไม้ให้ย่อตัวแล้วเอาของที่แบกวางได้ ลูกหาบบางคนก็จะเปิดเพลงไปตลอดทาง ตั้งแต่เพลงเก่า เพลงลูกทุ่ง เพลงร็อค แล้วแต่ความชอบ ทำให้ผ่อนคลาย ลืมความเหนื่อยกันไปทั้งลูกหาบและนักท่องเที่ยว
8.55 – 9.30 น. ซำกอซาง – พร่านพรานแป – ซำกกหว้า (580 ม.) เดินมาถึงช่วงนี้ เจอคุณลุงสูงอายุเป็นกลุ่มๆ น่ารักมาก คุณลุงบอกให้สู้ๆ ผมอายุ 70 แล้วยังไหวเล้ย มีแรงฮึดขึ้นมามากมาย ทำให้นึกถึงตอนไปปีนฟูจิที่มีคนแก่ มีเด็กเล็กเดินขึ้นมากมาย ทำให้เห็นว่าอายุไม่ใช่ข้อจำกัดของการท่องเที่ยวเลย ^^
9.30 – 10.30 น. ซำกกหว้า – ซำกกไผ่ – ซำกกโดน – ซำแคร่ (1,200 ม.) เดินรวดเดียวในระยะท้ายๆ วิวก็เป็นต้นไผ่ซะส่วนใหญ่ ช่วงนี้รู้สึกกระเป๋าหนักขึ้นๆ อากาศเริ่มร้อน และเริ่มเห็นร่องรอยช้างป่ามาหาอาหาร ที่ภูกระดึง หลังบ่ายสองจะไม่อนุญาตให้เดินขึ้นแล้ว เพราะกว่าจะมาถึงคงใกล้ๆ เย็น เป็นช่วงที่ช้างป่าออกมาหาอาหาร ที่ซำแคร่เป็นจุดที่เราพักและกินให้เต็มที่ก่อนออกเดินทางในระยะสุดท้ายกิโลกว่าๆ เพราะรู้มาว่าเป็นช่วงที่ยากที่สุดในการเดินทาง (จัดไปแค่แตงโม มะนาวโซดา สปอนเซอร์)
11.00 – 11.50 น. ซำแคร่ – หลังแป (1,300 ม.) ช่วงสุดท้ายนี้เดินลำบากสมคำร่ำลือ ทางชัน และมีบันได (ที่ชันมาก องศาผิดพลาด) หลายจุด กว่าจะถึงเล่นเอาหมดแรง เห็นหลายคนก็มาหมดแรงเอาช่วงนี้ แต่ก็ค่อยๆ เดิน ให้กำลังใจกันไป
ณ หลังแป ขึ้นมาไชโยกับนักท่องเที่ยวอีกหลายคน ผลัดกันถ่ายรูปไปมา พักเหนื่อย กินน้ำ แล้วก็มานึกได้ว่าต้องเดินอีก 3 กิโลครึ่ง เฮ้อออออ นึกว่าถึงแล้วซะอีก
12.00 – 12.50 น. หลังแป – วังกวาง (3,500 ม.) จุดนี้เป็นอีกจุดที่เหนื่อยมาก แม้จะเป็นทางเรียบ แต่ก็เดินไกลในช่วงที่หมดแรงแล้ว 555 เรียกได้ว่า เดินไปบ่นไป ต้นไม้ส่วนใหญ่เป็นต้นสน อากาศเริ่มร้อนมากขึ้น แต่ก็ปลอบใจตัวเองว่าใกล้ถึงแล้ว … ในที่สุดก็มาถึง เย้ๆ วันนี้นักท่องเที่ยวยังไม่เยอะมาก คงเป็นเพราะเป็นวันธรรมดาอยู่
ไปรับกุญแจบ้านพักแล้ว ออกมากินข้าวเที่ยง มื้อแรกบนภูกระดึง ข้าวหมูทอดกับข้าวคะน้าหมูกรอบร้านป้าจอมดุ และโค้กเย็นๆ ขวดละ 40 บาทถ้วน
กินข้าวแล้วกะว่าจะไปเดินสำรวจเส้นทางน้ำตก แล้วค่อยเดินไปดูพระอาทิตย์ตกตอนเย็น เอาเข้าจริงๆ เปิดห้องได้ จากนั้นก็นอนหลับเลย 1 ชม. 555 ตื่นมาอาบน้ำก็เย็นพอดี
ประมาณ 5 โมง เริ่มเดินไปผาหมากดูก นักท่องเที่ยววันนี้ขึ้นภูกระดึงประมาณ 600 คน แต่ส่วนหนึ่งน่าจะไปอยู่ที่ผาหล่มสัก จุดที่ทุกคนต้องไป เดี๋ยวเราไปกันพรุ่งนี้ ระยะเดินจากวังกวางไปผาหมากดูกไม่ไกลมาก ประมาณ 2 กิโล ก็เดินประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง
อาหารมื้อที่สองบนภูกระดึง คือ หมูจุ่ม จะบอกว่าร้านอาหารทุกร้านขายหมูกระทะและหมูจุ่ม ก็คงต้องกิน 555 แต่ไม่กล้ากินหมูกระทะเพราะกลัวปิ้งไม่สุกแล้วท้องจะมีปัญหา หมูจุ่มละกัน สุกชัวร์ ร้านที่ไปกินเปิดละครช่อง 8 ไปด้วย ดูเพลินมากกกกก จบจากกินหมูจุ่ม (ที่รสชาติเหมือนสุกี้) ก็ไปส่งไปรษณียบัตรซักหน่อย ร้านนี้น่ารักดี ได้เสื้อภูกระดึงมาด้วย 1 ตัวถ้วน
จบช่วงแรกไปก่อน เดี๋ยวมาบันทึกต่อในวันที่ 2 และวันกลับเนาะ ^^
Leave a Reply