พัฒนาการ (ด้านแผล) ของน้ำตาล

การเจอะเจอของเรากับน้ำตาลจะเกิดขึ้นในวันที่เรากลับบ้านเย็น อย่างน้อยคือ 1 ทุ่ม เราจะลงมาจากตึกก่อนเวลากลับบ้านประมาณครึ่งชั่วโมง เพื่อมาเตร็ดเตร่ดูน้ำตาล ส้ม และแมวอื่น ๆ ในกระเป๋ามีสิ่งของจำเป็นที่ไม่เคยลืม คือ อาหารเปียกแบบครบสูตร ขนมแมวเลีย และชามกระดาษ

น้ำตาลเป็นแมวที่ไม่น่ารักเอาซะเลยเมื่อเทียบกับเพื่อนแมวจรในบริเวณนั้น และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เราแวะไปดูน้ำตาล และให้อาหารเปียกแบบครบสูตรเสมอ (ซึ่งแมวที่เราเลี้ยงไม่กิน 555 กินแต่ของแซ่บ สารอาหารไม่ครบ)

ช่วงปลาย ปี 2022 น้ำตาลเริ่มมีแผลบริเวณสะโพกขวา เคยเอา Microcyn แอบฉีดให้ 1 ครั้ง จากนั้น น้ำตาลก็ไม่เข้าใกล้เราอีกเลย (จากเดิมที่ห่างไกลอยู่แล้ว ก็ยิ่งห่างไปอีก) แต่ยังคงเดินมาดูเมื่อเห็นเรา และกินอาหารเปียกที่เทไว้ให้เมื่อเราเดินออกห่าง

ปี 2023 ช่วงครึ่งปีแรก เรายังคงแวะเวียนไปดูบรรดาแมว ๆ ประมาณสัปดาห์ละครั้ง ตามแต่เวลาการกลับบ้านจะอำนวย ไม่ได้ถ่ายรูปน้ำตาลไว้ จนกระทั่งวันหนึ่งเริ่มรู้สึกว่า ทำไมน้ำตาลดูโทรมและขนดูยุ่งมาก ๆ เป็นเวลาเดียวกับส้มสุดหล่อที่เริ่มหายตัวไป

วันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน เราต้องไปจอดรถแถวแบงก์แล้วเดินไปทำธุระแถวนั้นในวันหยุด เลยแวะไปดูน้ำตาลซักหน่อย ภาพที่เห็นคือ น้ำตาลยังเดินมาหาเพื่อหวังอาหารเปียก เราเทไว้ให้แล้วยืนห่าง ๆ รอกินจนหมดแล้วเก็บชามไปทิ้ง น้ำตาลกินอิ่มแล้วก็นอนเล่น เราถึงได้เห็นแผลของน้ำตาลชัด ๆ ว่ามีเพิ่มเติมและดูฉ่ำแดง

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการหาข้อมูลเพราะความอยากรู้ จุดที่แผลเคยแห้งทำไมกลับมาฉ่ำ และทำไมมีแผลเพิ่มเติม ก็ลงเอยที่แผลติดเชื้อไม่ต่างจากคน และการเลียก็เป็นการแพร่เชื้อให้ตัวเองไม่ต่างจากคนที่มืออยู่ไม่สุข เรายังคงแวะเวียนไปดูแผลน้ำตาล ยิ่งพบว่าแผลเพิ่มที่ละเล็กละน้อย และลามไปที่ขาหลังทั้งสองข้าง

ความคิดจะพาน้ำตาลไปหาหมอเริ่มจริงจัง ปัญหาของเรื่องนี้คือ หนึ่ง น้ำตาลไม่ยอมให้เราเข้าใจและจับ สอง ไม่รู้ว่าน้ำตาลท้องหรือไม่ แม้น้ำตาลจะเป็นแมวจร และมีแผลทั่วตัว แต่น้ำตาลดูอ้วนท้วนสมบูรณ์ และไม่เคยปฏิเสธอาหารที่เราให้ หากน้ำตาลท้อง วิธีการจับก็อาจจะยุ่งยากไปอีก และถ้าจับไปรักษาแล้วคลอดลูก คงมีเรื่องยุ่งตามมาอีกหลายอย่าง

รูปสุดท้ายคือรูปที่ทำให้เราโทรไปนัดวันกับคนรับจ้างจับแมว และปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลสัตว์และคลีนิก รวม 3 แห่ง ถึงความเป็นไปได้ของโรค วิธีการรักษา ระยะเวลารักษา และ ค่าใช้จ่าย

คนรู้จักที่รู้ข่าวมักจะบอกว่า เราเป็นคนดีช่วยเหลือแมวป่วย ซึ่งมันคงไม่ใช่เพราะว่าเราเป็นคนดีเราถึงช่วยน้ำตาล เราแค่ทนไม่ได้ที่เห็นน้ำตาลในสภาพนี้ และมันไม่ได้ลำบากอะไรมากสำหรับการช่วยแมว 1 ตัว สุดท้ายมันคงเป็นการทำเพื่อตัวเองมากกว่า น้ำตาลเป็นแค่แมว ไม่ได้ต้องการอะไรมากไปกว่ามีข้าวกิน มีที่หลบฝน มีที่นอนก็พอแล้ว

ก่อนถึงวันไปจับน้ำตาล เราบอกน้ำตาลทุกครั้งที่เจอว่า ขออนุญาตนะ ขอพาไปหาหมอ แล้วจะพากลับมาส่งที่เดิม ไหว้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในที่ทำงาน 2 เรื่อง คือ หนึ่ง ขอให้การจับราบรื่น น้ำตาลไม่เป็นอันตราย และสอง ขอให้น้ำตาลไม่เป็นโรคร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัว หรือแผลติดเชื้อก็ตาม

และการรักษาของน้ำตาลก็เริ่มต้นขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งเหตุการณ์สำคัญในชีวิตเรา

Leave a comment

Create a website or blog at WordPress.com

Up ↑